การเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่นและสดใสอาจทำให้วันของเรากลายเป็นวันดีๆ ได้ ดังนั้นเราทุกคนจึงควรหันมาใส่ใจในเรื่องของกิจวัตรยามเช้าให้มากขึ้น เพื่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจที่แข็งแรงของตัวเราเอง
กิจวัตรประจำวันในยามเช้าอันแสนสดใส ที่อาจทำให้เช้าที่สดใสของเรากลายเป็นเช้าที่ไม่ดีได้ เพราะกิจวัตรที่เราทำไปด้วยความเคยชินเหล่านี้จริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์หรืออาจเป็นภัยอันตรายต่อตัวเราเองได้
การอาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนมีประโยชน์ตรงที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและสบายตัว แต่การอาบน้ำอุ่นนอกจากจะทำให้ง่วงแล้ว ยังทำให้ผิวของเราแห้งตึงขาดความชุ่มชื้น เราจึงควรเปลี่ยนมาอาบน้ำเย็นโดยเฉพาะในตอนเช้า
เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตของคนเรา และเราไม่ควรเสียเวลาไปกับการเลือกเสื้อผ้า โดยเฉพาะในยามเช้าที่เร่งรีบ เราจึงควรจำกัดรูปแบบของเสื้อผ้าให้เหลือแค่ไม่กี่ตัวเลือก โดยเฉพาะชุดที่จะใส่ไปเรียนหรือไปทำงาน เพราะนอกจากจะประหยัดเวลาแล้วยังทำให้เราไม่ต้องมาปวดหัวเรื่องการเลือกชุดตั้งแต่เช้าตรู่อีกด้วย
คนจำนวนมากนิยมรับประทานซีเรียลในตอนเช้า แต่ซีเรียลไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี เพราะอุดมไปด้วยน้ำตาลและยังมีอาหารที่ไม่ควรทานตอนท้องว่างอย่างนมหรือผลไม้ที่เราเติมลงไป อาหารมื้อเช้าควรเป็นอาหารที่มีโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต แต่มีน้ำตาลน้อย อย่างไข่ ชีส และเนื้อสัตว์ หรือจะรับประทานพิซซ่าก็ยังดีกว่าซีเรียล
หลายคนถูกสอนให้แปรงฟันทันทีหลังอาหาร แต่การแปรงฟันทันทีหลังรับประทานอาหารทำให้ฟันผุได้ เพราะหลังรับประทานอาหารเสร็จฟันของเราจะถูกเคลือบไปด้วยกรดจากผลไม้ น้ำอัดลม หรืออาหารชนิดต่างๆ เราจึงควรรออย่างน้อย 30 นาทีค่อยแปรงฟัน ระหว่างนั้นให้ดื่มน้ำเปล่าเพื่อชำระล้างกรดหรือเศษอาหารที่ติดอยู่
การดื่มกาแฟดำอาจดีต่อสุขภาพมากกว่ากาแฟใส่ครีมหรือนม แต่ไม่ใช่ในตอนเช้า เพราะการดื่มกาแฟดำในตอนเช้าจะเพิ่มระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เกิดความเครียด และการดื่มกาแฟดำตอนท้องว่างจะกัดกระเพาะของเราได้ จึงควรดื่มกาแฟหลังตื่นนอนแล้ว 3-4 ชั่วโมง ดื่มตอนท้องไม่ว่าง หรือควรเติมนมลงไปในกาแฟด้วย
การจัดที่นอนทันทีอาจเป็นพฤติกรรมที่ดูมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีวินัย แต่มันทำให้ที่นอนของเราเต็มไปด้วยเหลือบไรและแมลงต่างๆ เพราะความชื้นจากร่างกายของเราไม่สามารถระเหยได้ทัน วิธีที่ดีที่สุดคือทิ้งไว้แบบนั้นก่อนหรือเอาผ้าห่มไปตากไว้ที่อื่นเพื่อให้ความชื้นระเหยออกไปจากผ้าห่มและที่นอนของเราก่อน
ที่มา: brightside